วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ปูอัดทอด


ปูอัดทอด

ปูอัดทอด อาหารว่างทำง่าย ๆ อร่อยไม่ซ้ำใคร




ส่วนผสม เฟรนช์ฟรายส์ปูอัด

           ปูอัด (ปริมาณตามต้องการ)
           แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ถ้วย (สำหรับคลุก)
           น้ำมันพืช (สำหรับทอด)

ส่วนผสม ซอสครีมวาซาบิ


           ผงวาซาบิ 1/4 ช้อนชา
           น้ำอุ่น
           มายองเนส 3 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำ เฟรนช์ฟรายส์ปูอัด

           1. นำปูอัดมาซับน้ำให้แห้ง หลังจากนั้นฉีกปูอัดเป็นเส้นฝอย
 
           2. คลุกเคล้าปูอัดที่ฉีกไว้กับแป้งสาลีอเนกประสงค์ให้ทั่ว จากนั้นใช้กระชอนหรือตะแกรง ร่อนแป้งส่วนเกินให้ออกจากปูอัด เพื่อไม่ให้แป้งติดลงไปในน้ำมันเยอะจนเกินไป 

           3. ใส่น้ำมันพืชลงในหม้อทรงสูงใบเล็ก นำขึ้นตั้งไฟแรงจนน้ำมันร้อน จากนั้นลดไฟลงใช้ไฟปานกลาง ใส่ปูอัดลงไปทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน จัดใส่ถ้วย เตรียมไว้

           4. ผสมผงวาซาบิกับน้ำอุ่น คนผสมจนผงวาซาบิละลายเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปผสมกับมายองเนสให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมปูอัดที่เตรียมไว้

ปูอัดทอด อาหารว่างทำง่าย ๆ อร่อยไม่ซ้ำใคร

หมูหวาน


หมูหวาน

10 เมนูหมูหมู


ส่วนผสม หมูหวาน

        • เนื้อหมูสามชั้น (ส่วนหน้าอก) 1 กก.
        • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำเปล่า
        • น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)
หมูหวาน

วิธีทำ หมูหวาน



หมูหวาน

• นำหมูสามชั้นมาแล่เอาหนังหมูออก (เคล็ดลับ : เพื่อให้หมูหวานไม่แข็งและเหนียวจนเคี้ยวยากเกินไป)

หมูหวาน

• หั่นเนื้อหมูเป็นชิ้น ๆ หนาประมาณ 1-2 นิ้ว 

หมูหวาน

• ทอดเนื้อหมูสามชั้นที่หั่นไว้ด้วยไฟแรงจนสุกเหลือง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน 

หมูหวาน

  • ใส่น้ำมันปาล์มลงในกระทะอีกใบ (หรือกระทะเดิมแล้วเทน้ำมันเก่าทิ้ง)  นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่เนื้อหมูที่ทอดไว้ลงไป 

หมูหวาน

 • ตามด้วยน้ำตาลทรายและน้ำปลา คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลาย (เคล็ดลับ : ขณะเคี่ยวให้พรมน้ำเปล่าลงไปในกระทะเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อหมูนิ่มและไม่แข็งกระด้าง)

หมูหวาน

• พอน้ำตาลทรายละลายแล้วใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คนผสมจนน้ำตาลปี๊บละลายและซึมเข้าเนื้อหมู

หมูหวาน

 • ปิดไฟแล้วคนผสมอีกครั้งให้ส่วนผสมน้ำตาลเคลือบชิ้นหมู และพักทิ้งไว้สักครู่ให้ส่วนผสมเซตตัวดี

หมูหวาน

  • ตักหมูหวานใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ



วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

หมูทอดน้ำปลา



หมูทอดน้ำปลา

ส่วนผสม หมูทอดน้ำปลา
           
         • หมูสามชั้น 500 กรัม
         • น้ำปลาอย่างดี 3-4 ช้อนโต๊ะ 
         • พริกไทยป่น (เล็กน้อย)
         • ไข่ไก่ 1 ฟอง
         • ผงปรุงรส (เล็กน้อย)
         • แป้งชุบทอด 5-7 ช้อนโต๊ะ 
         • น้ำเย็น 
         • น้ำมันพืช (สำหรับทอด)
         • น้ำส้มสายชู 1/2 ช้อนโต๊ะ
         • เกลือป่น (เล็กน้อย)

วิธีทำ

หมูทอดน้ำปลา

• ใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูให้ทั่ว

หมูทอดน้ำปลา

• หมักหมูกับน้ำปลา พริกไทยป่น และผงปรุงรสหมู เติมแป้งชุบทอด และไข่ไก่ลงไปนวดให้เข้ากัน ระหว่างนวดหมูให้ค่อย ๆ เติมน้ำเย็นลงไปนวดด้วย หมักทิ้งไว้ 30 นาที

หมูทอดน้ำปลา

 • ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ (กะให้ท่วมชิ้นหมู)

หมูทอดน้ำปลา

 • เปิดไฟแรง พอน้ำมันร้อนให้นำเนื้อหมูลงทอดทีละด้านจนเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน 

หมูทอดน้ำปลา

• หั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ


หมูมะนาว


หมูมะนาว


หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ


ส่วนผสม หมูมะนาว

        • เนื้อหมู 300 กรัม
        • ก้านคะน้า
        • กระเทียมจีน 1 หัว
        • พริกขี้หนู 6 เม็ด (หรือตามชอบ)
        • มะนาว 3 ลูก
        • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
        • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ


วิธีทำ หมูมะนาว

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

      • นำก้านคะน้ามาปอกเปลือกออกแล้วหั่นเฉียงเป็นชิ้น ๆ

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• นำก้านคะน้าที่หั่นไว้ไปแช่ในน้ำแข็ง เตรียมไว้

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• ปอกเปลือกกระเทียมออกแล้วนำไปหั่นหยาบ ๆ เตรียมไว้

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• สับพริกขี้หนูพอหยาบ เตรียมไว้

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• หั่นมะนาวเตรียมไว้

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• เตรียมน้ำราดหมูมะนาว โดยผสมน้ำตาลทราย น้ำปลา และน้ำมะนาวเข้าด้วยกัน

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• จากนั้นใส่กระเทียมสับและพริกสับลงไปคนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ เตรียมไว้


หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• หั่นสไลซ์เนื้อหมูเป็นแผ่นบาง ๆ ตามแนวเส้น (เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มอร่อย)

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

• นำหมูไปลวกในน้ำเดือดแค่พอสุก (อย่าลวกนานจะทำให้หมูแข็งกระด้าง)

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ

  • ตักเนื้อหมูขึ้นสะเด็ดน้ำแล้วจัดเรียงใส่จาน

หมูมะนาว เมนูกับแกล้มเปรี้ยวแซ่บ ชวนน้ำลายสอ
 
 • ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงเตรียมไว้

 • เสิร์ฟพร้อมกับก้านคะน้าที่เตรียมไว้ 


ทอดมันปลากราย


ทอดมันปลากราย

23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ


ส่วนผสม ทอดมันปลากราย
            

         • เนื้อปลากราย 500 กรัม 
         • น้ำพริกแกงเผ็ด 1/2 ถ้วย
         • ไข่ไก่ 1 ฟอง
         • ถั่วฝักยาวซอย 1 ถ้วยพูนๆ
         • ใบมะกรูดซอยละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
         • น้ำปลาอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ


23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ


วิธีทำทอดมันปลากราย

23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ


 • นำทุกอย่างผสมเข้าด้วยกัน แล้วนวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน นำไปทอดให้สุก กินคู่กับน้ำจิ้มอาจาด


ส่วนผสม น้ำจิ้มอาจาด
         • แครอท 1/2 ถ้วย
         • แตงกวา 1/2 ถ้วย
         • หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
         • มะนาว 2 ลูก (อ้อใช้มะนาวแทนน้ำส้มสายชู ไม่ชอบรสเปรี้ยวของน้ำส้มจ๊ะ)
         • พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนโต๊ะ
         • น้ำตาลทราย
         • น้ำเปล่า
         • เกลือป่น

          หมายเหตุ : อัตราส่วนน้ำตาลทราย น้ำเปล่า และเกลือนิดหน่อยที่ใช้ทำเป็นน้ำเชื่อม ปรุงตามเพื่อน ๆ ชอบเลยนะคะ กะปริมาณให้พอท่วมผักที่เราเตรียมไว้เป็นพอค่ะ

วิธีทำน้ำจิ้มอาจาด

         • 1. นำแตงกวา แครอท หอมแดง และพริกขี้หนู ใส่ในชาม บีบมะนาวลงไป คลุกเคล้าเบา ๆ ให้ทั่ว แช่เย็นพักไว้
         • 2. ผสมน้ำกับน้ำตาลทราย และเกลือป่น คนให้ละลาย นำขึ้นตั้งไฟเคี่ยวให้เหนียว ชิมรสให้ออกหวานเค็มนิด ๆ ตามชอบ พักให้เย็น
         • 3. เวลาเสิร์ฟราดส่วนผสมนำลงในชามผัก จะได้ผักที่กรอบอร่อยสามรสจ้า

23 สูตรอาหารสุดง่าย อร่อยได้แบบไม่น่าเชื่อ



ประวัติสมเด็จพระนเรศวร


ประวัติสมเด็จพระนเรศวร



9



สมเด็จพระนเรศวรมหาราชหรือที่ชาวบ้านทั่วไปในครั้งนั้นเรียกว่า พระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลกทรงมีพระเชษฐภคิณีคือ พระสุพรรณกัลยา ทรงมีพระอนุชาคือ สมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) และทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย
ตลอดระยะเวลาในทรงพระเยาว์ของพระนเรศวรทรงใช้ชีวิตอยู่ในพระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก จนกระทั่งเมื่อพระเจ้าบุเรงนองยกทัพมาตีเมืองพิษณุโลก สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชเจ้าเมืองพิษณุโลกยอมอ่อนน้อมต่อแห่งหงสาวดี และทำให้พิษณุโลกต้องแปรสภาพเป็นเมืองประเทศราชหงสาวดีไม่ขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าบุเรงนองได้ทรงขอพระนเรศวรไปเป็นองค์ประกันที่หงสาวดี ทำให้พระองค์ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนตั้งแต่มีพระชนม์มายุเพียง 9 พรรษา
พระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีน้ำพระทัยเป็นนักรบมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวมีน้ำพระทัยกว้างขวางสมกับที่เป็นเชื้อสายของสมเด็จ พระศรีสุริโยทัย แม้พระนเรศวรจะถูกนำไปเป็นตัวประกันถึงหงสาวดี แต่ตลอดระยะเวลาพระองค์มิได้ทรงหวั่นไหว ครั้งที่อยู่ในเมืองหงสาวดีก็ได้แสดงความปรีชาสามารถให้ปรากฏหลายต่อหลาย ครั้ง ทำให้พระเจ้าบุเรงนองกษัตริย์ของหงสาวดีรู้สึกหวาดหวั่น เกรงว่าต่อไปภายหน้าอาจรวบรวมแผ่นดินอยุธยาได้
10
เมื่อปี พ.ศ. 2126 พระเจ้าอังวะเป็นกบฎ เนื่องจากไม่พอใจทางกรุงหงสาวดีอยู่หลายประการ จึงแข็งเมืองพร้อมกับเกลี้ยกล่อมเจ้าไทยใหญ่อีกหลายเมืองให้แข็งเมืองด้วย พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงจึงยกทัพหลวงไปปราบ ในการณ์นี้ได้สั่งให้เจ้าเมืองแปรเจ้าเมืองตองอูและเจ้าเมืองเชียงใหม่ รวมทั้งทางกรุงศรีอยุธยาด้วย ให้ยกทัพไปช่วยทางไทย สมเด็จพระมหาธรรมราชาโปรดให้สมเด็จพระนเรศวรยกทัพไปแทน
สมเด็จพระนเรศวรยกทัพออกจากเมืองพิษณุโลก เมื่อวันแรม 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะแม พ.ศ. 2126 พระองค์ยกทัพไทยไปช้า ๆ เพื่อให้การปราบปรามเจ้าอังวะเสร็จสิ้นไปก่อน ทำให้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรงแคลงใจว่า ทางไทยคงจะถูกพระเจ้าอังวะชักชวนให้เข้าด้วย จึงสั่งให้พระมหาอุปราชาคุมทัพรักษากรุงหงสาวดีไว้ถ้าทัพไทยยกมาถึงก็ให้ ต้อนรับและหาทางกำจัดเสีย และพระองค์ได้สั่งให้พระยามอญสองคน คือ พระยาเกียรติและพระยาราม ซึ่งมีสมัครพรรคพวกอยู่ที่เมืองแครงมาก และทำนองจะเป็นผู้คุ้นเคยกับสมเด็จพระนเรศวรมาแต่ก่อน ลงมาคอยต้อนรับทัพไทยที่เมืองแครง อันเป็นชายแดนติดต่อกับไทย พระมหาอุปราชาได้ตรัสสั่งเป็นความลับว่า เมื่อสมเด็จพระนเรศวรยกกองทัพขึ้นไป ถ้าพระมหาอุปราชายกเข้าตีด้านหน้าเมื่อใด ให้พระยาเกียรติและพระยารามคุมกำลังเข้าตีกระหนาบทางด้านหลัง ช่วยกันกำจัดสมเด็จพระนเรศวรเสียให้จงได้ พระยาเกียรติกับพระยารามเมื่อไปถึงเมืองแครงแล้วได้ขยายความลับนี้แก่พระมหา เถรคันฉ่องผู้เป็นอาจารย์ของตน ทุกคนไม่มีใครเห็นดีด้วยกับแผนการของพระเจ้ากรุงหงสาวดี เพราะมหาเถรคันฉ่องกับสมเด็จพระนเรศวรเคยรู้จักชอบพอกันมาก่อน
กองทัพไทยยกมาถึงเมืองแครง เมื่อวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีวอก พ.ศ. 2127 โดยใช้เวลาเดินทัพเกือบสองเดือน กองทัพไทยตั้งทัพอยู่นอกเมือง เจ้าเมืองแครงพร้อมทั้งพระยาเกียรติกับพระยารามได้มาเฝ้าฯ สมเด็จพระนเรศวร จากนั้นสมเด็จพระนเรศวรได้เสด็จไปเยี่ยมพระมหาเถรคันฉ่องซึ่งคุ้นเคยกันดีมา ก่อน พระมหาเถรคันฉ่องมีใจสงสารจึงกราบทูลถึงเรื่องการคิดร้ายของทางกรุงหงสาวดี แล้วให้พระยาเกียรติกับพระยารามกราบทูลให้ทราบตามความเป็นจริง เมื่อพระองค์ได้ทราบความโดยตลอดแล้ว ก็ทรงมีพระราชดำริเห็นว่าการเป็นอริราชศัตรูกับกรุงหงสาวดีนั้น ถึงกาลเวลาที่จะต้องเปิดเผยต่อไปแล้ว จึงได้มีรับสั่งให้เรียกประชุมแม่ทัพนายกอง กรมการเมือง เจ้าเมืองแครงรวมทั้งพระยาเกียรติพระยารามและทหารมอญมาประชุมพร้อมกัน แล้วนิมนต์พระมหาเถรคันฉ่องและพระสงฆ์มาเป็นสักขีพยาน ทรงแจ้งเรื่องให้คนทั้งปวงที่มาชุมนุม ณ ที่นั้นทราบว่า พระเจ้าหงสาวดีคิดประทุษร้ายต่อพระองค์ จากนั้นพระองค์ได้ทรงหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร (พระน้ำเต้าทองคำ) ประกาศแก่เทพยดาฟ้าดินว่า “ด้วยพระเจ้าหงสาวดี มิได้อยู่ในครองสุจริตมิตรภาพขัตติยราชประเพณี เสียสามัคคีรสธรรม ประพฤติพาลทุจริต คิดจะทำอันตรายแก่เรา ตั้งแต่นี้ไป กรุงศรีอยุธยาขาดไมตรีกับกรุงหงสาวดีมิได้เป็นมิตรร่วมสุวรรณปฐพีเดียวกัน ดุจดังแต่ก่อนสืบไป
จากนั้นพระองค์ได้ตรัสถามชาวเมืองแครงว่าจะเข้าข้างฝ่ายใด พวกมอญทั้งปวงต่างเข้ากับฝ่ายไทย สมเด็จพระนเรศวรจึงให้จับเจ้าเมืองกรมการพม่าแล้วเอาเมืองแครงเป็นที่ตั้ง ประชุมทัพ เมื่อจัดกองทัพเสร็จก็ทรงยกทัพจากเมืองแครงไปยังเมืองหงสาวดีเมื่อวันแรม 3 ค่ำ เดือน 6
ฝ่ายพระมหาอุปราชาที่อยู่รักษาเมืองหงสาวดี เมื่อทราบว่าพระยาเกียรติพระยารามกลับไปเข้ากับสมเด็จพระนเรศวร จึงได้แต่รักษาพระนครมั่นอยู่ สมเด็จพระนเรศวรเสด็จยกทัพข้ามแม่น้ำสะโตงไปใกล้ถึงเมืองหงสาวดี ได้ทราบความว่า พระเจ้ากรุงหงสาวดีมีชัยชนะได้เมืองอังวะแล้ว กำลังจะยกทัพกลับคืนพระนคร พระองค์เห็นว่าสถานการณ์ครั้งนี้ไม่สมคะเน เห็นว่าจะตีเอาเมืองหงสาวดีในครั้งนี้ยังไม่ได้ จึงให้กองทัพแยกย้ายกันเที่ยวบอกพวกครัวไทยที่พม่ากวาดต้อนไปแต่ก่อนให้อพยพ กลับบ้านเมือง ได้ผู้คนมาประมาณหมื่นเศษให้ยกล่วงหน้าไปก่อน พระองค์ทรงคุมกองทัพยกตามมาข้างหลัง